กคช. เร่งเสนอครม.อนุมัติ 21 โครงการ รวมที่อยู่อาศัยกว่า 5 พันหน่วย

“ทวีพงษ์  วิชัยดิษฐ” ผู้ว่ากคช. แถลงผลงานผ่านครึ่งศตวรรษ เนื่องในโอกาสจะครบรอบ 51 ปี 12 กพ.นี้ ปลื้ม!!! สร้างที่อยู่อาศัยแล้วกว่า 7.5 แสนหน่วย เร่งเสนอครม. อีก 21 โครงการรวมกว่า 5 พันหน่วย ส่วนตามแผนก่อสร้างยังมีอีกเกือบหมื่นหน่วย เดินหน้าจัดโปรโมชั่นพิเศษและสินเชื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งรูปแบบเช่าและซื้อเป็นของตนเอง
 
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารสันทนาการ สำนักงานใหญ่ การเคหะแห่งชาติ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ นายทวีพงษ์  วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เป็นประธานในการแถลงข่าวผลการดำเนินงานครบรอบ 51 ปี การเคหะแห่งชาติ (กคช.) พร้อมแถลงผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2566 และแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยประจำปีงบประมาณ 2567

นายทวีพงษ์ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติ(กคช.) เป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีภารกิจหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชน และเมือง ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชน ปัจจุบันดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ “สร้างบ้าน สร้างสุข เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี” และในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 นี้จะครบรอบ 51 ปี ของการก่อตั้ง

โดยกว่าครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาการเคหะแห่งชาติได้พัฒนาที่อยู่อาศัยในทุกรูปแบบไปแล้วทั้งสิ้น 752,160 หน่วย ผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการเคหะชุมชน โครงการบ้านเอื้ออาทร โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง โครงการอาคารเช่า เป็นต้น

ปัจจุบันการเคหะแห่งชาติขับเคลื่อนภารกิจภายใต้แผนวิสาหกิจการเคหะแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2566-2570 (ฉบับปรับปรุงปี พ.ศ. 2566) และแผนปฏิบัติการประจำปี พ.ศ. 2567 โดยเร่งดำเนิน “โครงการ Quick Win” กำหนดเป้าหมายไว้ ได้แก่ โครงการบริหารหน่วยส่งมอบเป็นหน่วยที่อยู่อาศัยพร้อมขาย 6,000 หน่วย โครงการบริหารการก่อสร้าง ก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้ได้มาตรฐานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จำนวนกว่า 3,000 หน่วยให้แล้วเสร็จ และส่งมอบให้ประชาชนได้อยู่อาศัยหรือให้ประชาชนได้เช่าตามแผนที่กำหนด โครงการจัดประโยชน์ทรัพย์สินจากพื้นที่ว่างภายในโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ โครงการบริหารอาคารเช่า ในปีนี้มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เร่งบรรจุผู้เช่าให้ได้ตามเป้าหมาย

นอกจากนี้ยังมี “โครงการมุ่งเน้น” ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จะพัฒนาในรูปแบบผสมผสาน Mixed-Used/ Mixed-Income รองรับประชาชนทุกกลุ่มให้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน ในระดับราคาที่สามารถรับภาระได้ประกอบด้วย โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะ 2-4 ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้าง 2 อาคาร ได้แก่ อาคาร D1 สูง 35 ชั้น จำนวน 1 อาคาร รวม 612 หน่วย มีความคืบหน้าการก่อสร้างได้ 96.35% ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานด้านภูมิสถาปัตย์ เช่น ถนน สวน เก็บงานสี เก็บรายละเอียดงานห้องพักอาศัย  และทดสอบระบบ เป็นต้น คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567 และสามารถให้ผู้เช่าเข้าอยู่อาศัยได้ประมาณเดือนเมษายน 2567 และในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้มีการปฐมนิเทศผู้อยู่อาศัยเดิม แฟลตที่ 23-32 เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าอยู่อาศัย และจับสลากเลือกห้องพักอาศัยในโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 อาคาร D1 จำนวน 363 ราย ซึ่งมีผู้ยื่นขอชดเชยสิทธิแทนการเข้าอยู่อาศัย จำนวน 139 ราย ได้รับเงินชดเชยรายละ 400,000 บาท นอกจากนี้ยังให้สิทธิครอบครัวขยาย จำนวน 32 หน่วย ส่วนอาคาร A1 สูง 32 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 635 หน่วย ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ คาดว่าเมื่อได้ผู้รับจ้างรายใหม่แล้วจะสามารถดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้ประมาณกลางปี พ.ศ. 2569   

ด้านโครงการบ้านเคหะสุขประชา เป็นโครงการบ้านเช่าพร้อมอาชีพมุ่งเน้น “มีบ้าน-มีอาชีพ-มีรายได้-มีความสุข” โดยขณะนี้ก่อสร้างโครงการนำร่องและส่งมอบพร้อมทำสัญญาเช่าให้กับผู้ได้สิทธิแล้ว 2 โครงการ รวมทั้งสิ้น 572 หน่วย

โครงการบ้านเคหะสุขเกษม จังหวัดสมุทรปราการ (เทพารักษ์) เป็นโครงการบ้านเช่ารองรับสังคมผู้สูงอายุ เน้นการออกแบบ Universal Design แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 ระยะ จำนวน 90 อาคาร รวมทั้งสิ้น 3,956 หน่วย ปัจจุบันได้สร้างอาคารต้นแบบเสร็จแล้ว 45 หน่วย และในปี 2567 จะเสนอขออนุมัติหลักการต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อดำเนินโครงการระยะที่ 1 ส่วน 2 และระยะที่ 2 รวมทั้งสิ้น 876 หน่วย

สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายประจำปีงบประมาณ 2567 สู่การปฏิบัติของการเคหะแห่งชาติ นายทวีพงษ์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ปัจจุบันประชาชนยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยในราคาที่รับภาระได้ ซึ่งโครงการที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติมีราคาไม่แพง เข้าถึงง่าย มี 3 รูปแบบ คือ 1) เช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติ 2) ผ่อนกับสถาบันการเงิน และ 3) ผ่อนกับโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย กรณีถูกสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ

ทั้งนี้ ในปี 2567 กคช.ยังมี “บ้านพร้อมอยู่” ทั้งในรูปแบบขายและเช่า ได้แก่ โครงการบ้านตั้งต้น First-Jobber Housing ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 6,928 หน่วย แบ่งออกเป็น อาคารขาย 5,500 หน่วย และอาคารเช่า 1,428 หน่วย นอกจากนี้ยังมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับทุกกลุ่มเป้าหมาย (เพื่อขาย/เพื่อเช่า) ประกอบด้วย โครงการที่อยู่อาศัยที่นำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติในปี 2567 จำนวน 21 โครงการ 5,342 หน่วย โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 606 หน่วย โครงการที่อยู่อาศัยตามแผนการก่อสร้าง 9,927 หน่วย โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 2,429 หน่วย และโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 อาคารแปลง D1 จำนวน 612 หน่วย

ขณะนี้กคช.ยังจัดโปรโมชันพิเศษให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ที่สนใจทั้งในรูปแบบเช่าและซื้อเป็นของตนเอง สำหรับโครงการประเภทเช่า ได้แก่ บ้านตั้งต้นเพื่อเช่า เป็นห้องเช่าสำหรับกลุ่มคนวัยเริ่มทำงาน หรือ First Jobber และประชาชนที่สนใจ ในทำเลที่มีศักยภาพหลากหลายพื้นที่เพื่อนำมาเข้าร่วมโครงการ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวนรวม 1,428 หน่วย เริ่มตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 และโปรโมชันสำหรับโครงการประเภทซื้อ ได้แก่ บ้านเพื่อทุกคน ( House for All ) สำหรับประชาชนทุกกลุ่มรายได้ที่ต้องการซื้อบ้านเป็นของตนเอง มีกว่า 5,500 หน่วย เพียงวางเงินจองเริ่มต้น 1,000 บาท ลูกค้าสามารถยื่นขอสินเชื่อจากโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย โดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษในปีแรกเพียงร้อยละ 1.50/ปี

“ในปีที่ 51 ของกคช.ได้พัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนมาแล้วกว่า 7.5 แสนหน่วย ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในทุกมิติ ทั้งในด้านกายภาพ เช่น การปรับปรุงสภาพแวดล้อมในโครงการให้มีความน่าอยู่และปลอดภัย ด้านสังคม เช่น การจัดตั้งผู้นำชุมชนหรือคณะกรรมการชุมชนในการขับเคลื่อนและบูรณาระหว่างกคช. ผู้อยู่อาศัยในชุมชน และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชน และด้านเศรษฐกิจ เช่น การจัดอบรมฝึกอาชีพให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชนเพื่อนำไปต่อยอด จนสามารถพัฒนาให้เป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลัก เพื่อเป็นการยกระดับรายได้ของคนในชุมชนให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น” ผู้ว่าการกคช. กล่าวย้ำในตอนท้าย