มหาดไทยจัดรูปที่ดิน ปรับโฉมอ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี

มหาดไทย ลุยจัดรูปที่ดินฯ อุบลราชธานี “ราษฎร์-รัฐ ร่วมพัฒนาที่ดินตาบอด ปรับโฉมเปลี่ยนอ.พิบูลมังสาหาร ให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน” บนพื้นที่โครงการกว่า 96 ไร่ ที่ดิน 16 แปลง เจ้าของที่ดิน 13 ราย ใช้งบ 24.7 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างถนนตามผังเมืองสาย ข7


วันนี้ (17 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 09.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณถนนตามผังเมืองสาย ข7 อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวรายงาน และนายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวต้อนรับ

โครงการดังกล่าวถือเป็นก้าวแห่งความสำเร็จในการพัฒนาเมืองแบบราษฎร์-รัฐ ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาที่ดินให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดี Change for Good ในตำบลพิบูลและตำบลกุดชมภู โดยแก้ปัญหาที่ดินตาบอดให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้ ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มมูลค่าที่ดิน กระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต และสามารถพัฒนาเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่วางผังเมืองไว้อย่างเป็นระบบ โดยเจ้าของที่ดินยังมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินของตนเอง นำมาซึ่งประโยชน์แก่เจ้าของที่ดินและชุมชนที่อยู่บริเวณโดยรอบ


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยขับเคลื่อนภารกิจเพื่อเป้าหมาย “การพัฒนาที่ยั่งยืน” (Sustainable Development Goal : SDGs) และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่เป็นงานที่กระทรวงมหาดไทยบูรณาการภารกิจของหน่วยงานในกระทรวง อันได้แก่ กรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) กรมที่ดิน (ทด.) กรมการปกครอง (ปค.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ร่วมกันแก้ไขปัญหาที่ดินตาบอด


โดยพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปา ที่ได้มาตรฐาน เข้าถึงที่ดินทุกแปลง ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นโครงการที่ขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดี Change for Good โดยการเปิดโอกาสให้คนในชุมชนเข้ามาเป็นหุ้นส่วนในการพัฒนาที่ดินร่วมกับภาครัฐ ทำการพัฒนาที่ดินในเมือง ตามความต้องการของประชาชนและชุมชน ในการแก้ไขปัญหาที่ดินขาดแคลนสาธารณูปโภคพื้นฐาน ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ไขความเดือดร้อนให้ผู้เข้าร่วมโครงการแล้ว ยังเป็นการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนในเมืองไปในคราวเดียว เป็นโครงการที่มีส่วนส่งเสริมให้เมืองและชุมชนพัฒนาได้อย่างยั่งยืน กระจายบริการพื้นฐานช่วยลดความเหลื่อมล้ำ กระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโต นอกจากนี้การได้ร่วมรับประโยชน์จากการร่วมมือดำเนินโครงการ ส่งผลให้ทั้งประชาชนได้ประโยชน์ ชุมชนได้ประโยชน์ ภาครัฐได้ประโยชน์


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการจัดรูปที่ดินฯ เป็นช่องทางที่ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาเมือง และพัฒนาประเทศร่วมกันได้ด้วยรูปแบบของ “หุ้นส่วนการพัฒนา” ที่ดินในเมืองที่สามารถออกแบบการพัฒนาพื้นที่ได้ตรงตามความต้องการของพี่น้องประชาชน เสริมสร้างศักยภาพของชุมชนให้ท้องถิ่นเติบโต และส่งผลถึงอนาคตเมืองที่ยั่งยืน เป็นโครงการที่กระทรวงมหาดไทยมุ่งมั่นตั้งใจทำเพื่อ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชนและหวังให้เกิดการขยายผลในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ


ด้านนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า โครงการจัดรูปที่ดินเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่กรมโยธาธิการและผังเมืองให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาตามผังเมือง เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วยการร่วมกันพัฒนาเมืองระหว่างเจ้าของที่ดินกับหน่วยงานภาครัฐ โดยใช้พระราชบัญญัติจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ. 2547 ส่งเสริมให้ประชาชนนำที่ดินตาบอดซึ่งสาธารณูปโภคเข้าไม่ถึง มาร่วมกันกับภาครัฐพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ไฟฟ้า ประปาที่ได้มาตรฐานเข้าถึงที่ดินทุกแปลง ให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเจ้าของที่ดินยังคงกรรมสิทธิ์ไว้ ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการเป็นผู้ปันส่วนหรือเสียสละที่ดินของตน เพื่อเป็นถนนและสวนสาธารณะ โดยรัฐไม่มีการเวนคืนที่ดิน และมีนโยบายให้ทุกจังหวัดดำเนินโครงการก่อสร้างถนนตามผังเมืองรวมด้วยวิธีการจัดรูปที่ดินฯ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 โครงการฯ


สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอุบลราชธานีจึงร่วมกับเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหารและเทศบาลตำบลกุดชมภู ดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ในเขตผังเมืองรวมเมืองพิบูลมังสาหาร บริเวณถนนตามผังเมืองสาย ข7 อำเภอพิบูลมังสาหาร บนพื้นที่โครงการ 96 – 2 – 87.90 ไร่ แปลงที่ดิน 16 แปลง เจ้าของที่ดิน 13 ราย กรมโยธาธิการและผังเมืองจัดสรรงบประมาณ 24,742,000 บาท เพื่อก่อสร้างถนนตามผังเมืองสาย ข7 ทำหน้าที่เชื่อมโยงถนนสถิตย์นิมานกาล หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 217 กับถนนเลี่ยงเมืองพิบูลมังสาหาร ขนาดเขตทาง 15 เมตร ระยะทาง 670 เมตร พร้อมระบบระบายน้ำ ขยายเขตไฟฟ้า ประปา ก่อสร้างสะพานข้ามลำห้วยซัน 1 แห่ง และเจ้าของที่ดินได้จัดหางบประมาณจากการจำหน่ายที่ดินจัดหาประโยชน์ มาสนับสนุนการก่อสร้างถนนสายรอง เขตทาง 6 เมตร ระยะทาง 315 เมตร และท่อลอดเหลี่ยมข้ามห้วยซัน 1 แห่ง พร้อมระบบระบายน้ำ เป็นเงิน 1,672,676 บาท


เมื่อโครงการแล้วเสร็จนอกจากที่ดินในโครงการจะมีถนน ไฟฟ้า ประปา เข้าถึงทุกแปลงแล้ว ยังช่วยให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลกุดชมภูและตำบลพิบูลเดินทางไปมาหาสู่กันได้ การเดินทางสะดวกและปลอดภัย ถนนสาธารณะมีไฟฟ้าส่องสว่าง มูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้น แม้ที่ดินจะมีขนาดเนื้อที่น้อยกว่าเดิมเล็กน้อย โดยราคาที่ดินก่อนดำเนินการไร่ละ 3.2 ล้านบาท หลังดำเนินการราคาเพิ่มขึ้นเป็นไร่ละ 6.4 ล้านบาท และจังหวัดอุบลราชธานียังได้พื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้นจากที่เจ้าของที่ดินสละให้สร้างถนนจำนวน 5 – 3 – 86.26 ไร่ ช่วยรัฐประหยัดงบประมาณเวนคืนที่ดินกว่า 19.09 ล้านบาท ชาวเมืองพิบูลมังสาหารได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันกว่า 1.3 แสนราย ไม่รวมนักท่องเที่ยวที่ได้ใช้ถนนเป็นทางสัญจรเข้าถึงของดีเมืองพิบูลมังสาหาร ช่วยให้เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวกระจายลงพื้นที่มากขึ้น


นอกจากนี้โครงการมีรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ การประปาส่วนภูมิภาค เข้าร่วมโครงการ และมีส่วนร่วมในการก่อสร้างขยายเขตและวางระบบประปา ซึ่งที่ดินของการประปาส่วนภูมิภาคในปัจจุบันใช้เป็นที่ตั้งของสถานีจ่ายน้ำ ทำให้ประชาชนในบริเวณพื้นที่โครงการฯ และบริเวณใกล้เคียง ได้ใช้น้ำประปาที่สะอาดและปลอดภัย


ทั้งนี้ โครงการฯ ได้มอบหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินแปลงใหม่แก่เจ้าของที่ดินทุกราย มีการส่งมอบถนนให้ท้องถิ่นดูแลบำรุงรักษา และได้ประกาศการสิ้นสุดโครงการในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 โดยได้รับความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ทำให้เมืองและชุมชนพัฒนาได้อย่างยั่งยืน กระจายบริการพื้นฐาน ลดความเหลื่อมล้ำด้วยหลักการ “ราษฎร์-รัฐ ร่วมพัฒนา”


ในวันนี้กรมโยธาธิการและผังเมืองและจังหวัดอุบลราชธานีจึงจัดพิธีเปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดินฯ สาย ข7 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ถนนอย่างเป็นทางการ และนับเป็นความภาคภูมิใจในความสำเร็จของการพัฒนาเมืองจากการมีส่วนร่วมของประชาชนชาวพิบูลมังสาหาร แม้จะเป็นโครงการเล็ก ๆ แต่เกิดประโยชน์กับทุกภาคส่วน เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งอื่น ๆ นำวิธีการจัดรูปที่ดินฯ ไปใช้แก้ปัญหาเมืองหรือเตรียมพื้นที่เมืองให้พร้อมรองรับการพัฒนาในอนาคต

หากท่านเจ้าของที่ดินมีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ สามารถติดต่อสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่กำกับดูแลพื้นที่ของท่านได้ทั่วประเทศ กรมโยธาธิการและผังเมืองยินดีให้บริการเพื่อส่งเสริมให้เกิดพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน