32 องค์กรผนึกพลังสานต่อภารกิจ ‘มูลนิธินายช่างไทยใจอาสา’

ภาครัฐและเอกชน 32 องค์กรจับมือลงนาม MOU ผนึกพลังสานต่อภารกิจมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ณ ห้องประชุมเกษมจาติกวนิช การไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 32 องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรวิชาชีพที่มีวิศวกร สถาปนิก และนายช่างสาขาต่างๆ ในองค์กร ได้ร่วมบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือกิจกรรมอาสา มูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา ระยะเวลา 5 ปี (ระหว่าง พ.ศ. 2566-2570)

ดร. กมล ตรรกบุตร ประธานมูลนิธินายช่างไทย ใจอาสา เปิดเผยว่า พิธีลงนามความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นกรอบแนวทางที่ชัดเจนในการประสานความร่วมมือและการดำเนินการร่วมกันระยะเวลา 5 ปี (ระหว่าง พ.ศ. 2566-2570) เพื่อสานต่อประโยชน์การดำเนินกิจกรรชมของวิศวกรอาสา สถาปนิกอาสา และนายช่างอาสา ในการให้ความช่วยเหลือด้านสาธารณประโยชน์และสาธารณกุศลแก่ประชาชน สถานศึกษา หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานเอกชน และนิติบุคคลอื่น ๆ

โดยผ่านไป 5 ปีเรามีพันธมิตรเพิ่มจากกว่า 10 ราย เป็น 32 ราย วันนี้จึงเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ต่อยอดจากงานเดิมต่อไปอีก ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยพลังใจอาสา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะประสบความสำเร็จดังเช่น 5 ปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อความสะดวก ปลอดภัยต่อส่วนรวม ล่าสุดมีแนวทางชัดเจนว่าจะปรับปรุงระบบการติดตั้งแยกระบบไฟฟ้าในบ้านแต่ละหลังในพื้นที่ประสบภัยบ่อยครั้งให้เป็น 2 ระบบของการติดตั้งระหว่างชั้นบน และชั้นล่างออกจากกัน เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้ประชาชนโดยนำร่องในพื้นที่จ.อุบลราชธานีจำนวน 10 หลังคาเรือนแล้วจะเร่งขยายขอบเขตเพิ่มขึ้นต่อไป

“ผมจะเร่งผลักดันนวัตกรรมแยกระบบไฟฟ้าให้เดินหน้าต่อไป จากอุบลราชธานีก็จะไปที่อุทัยธานี เขตภาคกลาง และภาคเหนือต่อเนื่องกันไป โดยจะประสานหน่วยงานการไฟฟ้าของประเทศเข้าไปดำเนินการเพื่อสร้างเครือข่ายให้เข้มแข็ง ผมขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ลงนามความร่วมมือในวันนี้ และขอขอบคุณสมาชิกจิตอาสาทุกท่านที่สมัครใจเข้ามาปฏิบัติงานในนามมูลนิธิฯ ผมเชื่อว่ามูลนิธิฯ ของเราจะก้าวสู่หนึ่งทศวรรษในฐานะศูนย์กลางความช่วยเหลือสังคม ทั้งในเชิงการป้องกัน เฝ้าระวัง และบรรเทาสาธารณภัย โดยเฉพาะในภาวะที่เกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ เราจะสามารถระดมกำลังพลที่มีความรู้ความสามารถ รวมถึงทุนทรัพย์และปัจจัยที่จำเป็นสำหรับให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที”

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า เราช่วยเหลือประชาชน สังคม และสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด วิกฤติที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งกฟผ.จะเข้าเป็นด่านหน้าและหน่วยสนับสนุนได้ทันที ที่ผ่านมาได้ให้การสนับสนุนมูลนิธิฯทั้งเงินทุนและแรงกายของจิตอาสาเจ้าหน้าที่กฟผ. ตลอดจนแรงใจและคลังสมองช่วยคิดช่วยทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือสังคมนั่นเอง

นายวิลาศ เฉลยสัตย์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) กล่าวว่า บทบาทของกฟน.จะอยู่ในเขตเมือง ดำเนินงานด้านพลังงานเพื่อวิถีชีวิตมหานคร เจตนารมณ์ในการลงนามความร่วมมือในวันนี้คือจะทำอย่างไรเพื่อให้สังคมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ดังนั้นความเชี่ยวชาญและบุคลากรที่มีอยู่จึงพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือสังคมและยินดีที่จะสนับสนุนแผนการขับเคลื่อนของมูลนิธินายช่างไทยใจอาสา

รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ประธานชมรม ปศส. สถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า ได้รับเกียรติเข้าร่วมงานกับมูลนิธิฯเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในการเข้าไปปรับปรุงระบบไฟฟ้าโรงเรียนเก่าแห่งหนึ่งให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ส่วนภาพในอนาคตยังเห็นว่าโครงการของมูลนิธิฯจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน จึงพร้อมสานต่อเจตนารมณ์ขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบันชมรมปศส.มีสมาชิก 21 รุ่นมีศักยภาพด้านบริหารเศรษฐกิจสาธารณะ มีพื้นฐานทั้งด้านเศรษฐกิจ ราชการและวิชาการจึงพร้อมเป็นองค์ความรู้ให้มูลนิธิฯได้อย่างเต็มที่

สำหรับ 32 องค์กรที่ร่วมลงนามในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. มูลนิธินายช่างไทยใจอาสา 2. สภาสถาปนิก 3. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 4. การไฟฟ้านครหลวง 5. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 6. สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร 7. สมาคมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไทย 8. สมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย 9. สมาคมวิศวกรรมปรับอากาศแห่งประเทศไทย 10. สมาคมไฟฟ้าแสงสว่างแห่งประเทศไทย 11. สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาเครื่องกลและไฟฟ้าไทย 12. สมาคมอุตสาหกรรมไฟฟ้าแห่งประเทศไทย 13. สมาคมวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย 14. สมาคมวิชาการและเทคนิคไทย-ฝรั่งเศส 15. มูลนิธิมดชนะภัย 16. คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

17. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 18. คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 19. คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 20. สมาคมนักศึกษาเก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 21. สมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย 22. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี 23. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ 24. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก 25. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร 26. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ 27. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา
28. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย 29. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ 30. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน 31. ชมรม ปศส.สถาบันพระปกเกล้า 32. สมาคมศิษย์เก่าสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ทั้งนี้ภายในงานยังได้มีการมอบโล่เชิดชูเกียรติแก่วิศวกรอาสา สถาปนิกอาสา และนายช่างอาสา จำนวน 14 คน ดังนี้ 1. นายนราธิป ศิริมาศ วิศวกรอาสา /นายช่างอาสา 2. นายชุมพร คำคนซื่อ นายช่างอาสา 3. นายศักดิ์สิทธิ์ ศิลธร วิศวกรอาสา /นายช่างอาสา 4. นายศิริเดช พูลเรือง วิศวกรอาสา /นายช่างอาสา 5. นายผดุงเกียรติ สุทธวาสน์ นายช่างอาสา 6. นายสมาน ขั้นชัยภูมิ วิศวกรอาสา /นายช่างอาสา 7. นายวุฒิศิลป์ เรืองวิทยานิธิกร สถาปนิกอาสา 8. นายศุภชัย พันติ วิศวกรอาสา /นายช่างอาสา 9. ว่าที่ร.อ.ศิริพงษ์ สนานคุณ การไฟฟ้านครหลวง 10. นายประสิทธิ์ อุปชิตร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 11. ว่าที่ร.ต.เสกสรร ปานถม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 12. นายพงษ์เทพ อรุณโชติ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 13. นายสุวัฒน์ สาธุจรัญ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 14. นายศักดิ์ดา นาวารัตน์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

“ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 2561 – 2565 ทั้ง 14 ท่าน ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น เสียสละ อดทน คำนึงถึงประโยชน์ ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจสำหรับจิตอาสาทุกๆ คนในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยภาคภูมิใจต่อไป” ประธานมูลนิธินายช่างไทยใจอาสา กล่าวในตอนท้าย