นักวิจัยมจธ.คิดค้นพัฒนา ชุดตรวจหาลายนิ้วมือแฝงจากเปลือกมังคุด
นักวิจัยศูนย์วิจัย ASESS มจธ. คิดค้นและพัฒนาผงเปลือกมังคุดตรวจหารอยลายนิ้วมือแฝง ได้ผลรวดเร็วภายใน 10 วินาที ลดขั้นตอน ไม่ยุ่งยาก สามารถตรวจหาได้กับวัตถุพยานทุกพื้นผิว ลดการนำเข้า และไม่ใช้สารเคมี รายแรกของไทย หนุนรัฐ-เอกชนเร่งต่อยอดเชิงพาณิชย์พร้อมยินดีถ่ายทอดองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจ
ปัญหาอาชาญกรรม เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบ สืบค้น และพิสูจน์หลักฐานต่างๆ เพื่อนำไปสู่การคลี่คลายคดีและเกิดความกระจ่างให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะ“วัตถุพยาน” ในที่เกิดเหตุถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญ ที่จะต้องเร่งตรวจหารอยนิ้วมือที่แฝงอยู่บนวัตถุพยานนั้นๆ เพื่อนำไปสู่การจับกุม
ปัจจุบันการตรวจหารอยนิ้วมือบนวัตถุพยานนั้น ผู้ตรวจหาต้องพิจารณาพื้นผิวของวัตถุพยานว่าเป็นพื้นผิวประเภทมีรูพรุน ไม่มีรูพรุน หรือกึ่งรูพรุน รวมถึงร่องรอยของลายนิ้วมือลายนิ้วมือแฝง เพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมมาใช้เพิ่มความคมชัดของลายนิ้วมือแฝง นอกจากจะต้องอาศัยความชำนาญแล้ว บางวิธียังมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ใช้เวลานาน อีกทั้งยังใช้สารเคมีอันตราย ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ต้นทุนสูง และบางกรณีต้องทำถึง 2 วิธีร่วมกันจึงจะเห็นรอยนิ้วมือปรากฏชัดเจน
ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์วิศวกรรมศาสตร์เพื่อคำตอบของสังคม หรือ Applied Science and Engineering for Social Solution (ASESS) Research Center คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จึงได้พัฒนานวัตกรรม “ชุดตรวจหาลายนิ้วมือแฝงอย่างรวดเร็ว โดยใช้ผงเปลือกมังคุด”ขึ้น โดยนำวัสดุเหลือทิ้งจากภาคเกษตรหรือวัสดุจากธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ ข้อดีคือใช้เวลาเพียง 10 วินาที สามารถตรวจหาลายนิ้วมือได้กับทุกพื้นผิว ที่สำคัญไม่ใช้สารเคมีที่เป็นผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจและสิ่งแวดล้อม
ผศ.ดร.เขมฤทัย ถามะพัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มจธ. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ ASESS กล่าวว่า ชุดตรวจหาลายนิ้วมือแฝงอย่างรวดเร็ว โดยใช้ผงเปลือกมังคุด เป็นผลงานชิ้นแรกๆ ตั้งแต่ปี 2559 ถือเป็นผลงานที่โดดเด่นอีกชิ้นหนึ่งของการสังเคราะห์เคมีสีเขียวจากธรรมชาติที่ได้นำไปประยุกต์ใช้ ผลงานชิ้นนี้ได้รับการการันตีรางวัลมากมายทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ
โดยจุดเริ่มต้นที่ตั้งใจพัฒนาขึ้น เพื่อต้องการนำผงเปลือกมังคุดมาใช้ตรวจหาลายนิ้วมือกับวัตถุพยานมีรูพรุนหรือกระดาษเป็นหลัก แต่พอทดลองกับวัสดุอื่นที่ไม่ใช่กระดาษ ก็พบว่าสามารถใช้ตรวจหาลายนิ้วมือได้กับวัสดุทุกพื้นผิวทั้งที่มีรูพรุน และไม่มีรูพรุน อาทิ ขวด กระป๋อง แผ่นโลหะ ประตู ฯลฯ สามารถใช้ผงเปลือกมังคุดทดแทนผงฝุ่นดำ โดยไม่ต้องปัดฝุ่นออก เพียงแค่ทาบหรือกลิ้งผงเปลือกมังคุดลงบนพื้นที่วัสดุที่ต้องการตรวจ เป่าผงที่ติดอยู่ออกก็จะเห็นรอยลายนิ้วมือปรากฏขึ้นชัดเจน ในเวลาเพียง 10 วินาที
“ซึ่งที่มาของแนวคิดนี้เกิดจากเมื่อแกะมังคุดแล้วสีติดมือ จึงมองว่าเมื่อสีของเปลือกมังคุดติดนิ้วมือได้ ก็สามารถติดบนลายนิ้วมือแฝงได้เช่นกันเป็นหลักการง่ายๆ เพราะสารคัดหลั่งถูกถ่ายเทอยู่บนพื้นผิววัสดุ ดังนั้น เราจึงทำให้เปลือกมังคุดมีขนาดเล็กลง เพื่อเติมพื้นที่ผิวในการที่จะไปจับได้ ซึ่งในเปลือกมังคุดจะมีสารให้สีต่างๆ และหนึ่งในสารให้สีในเปลือกมังคุดจะสามารถไปจับกับหมู่ฟังก์ชันที่เป็นสารคัดหลั่งด้วยพันธะไฮโดรเจนจึงเกาะกันได้”
สำหรับชุดตรวจหาลายนิ้วมือแฝงอย่างรวดเร็วโดยใช้ผงเปลือกมังคุด ประกอบด้วย อุปกรณ์ที่ใช้ในการกลิ้ง ภาชนะบรรจุผงเปลือกมังคุด อุปกรณ์กดทับวัตถุพยาน สามารถใช้งานได้ 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 โรยผงเปลือกมังคุดลงในภาชนะ นำกระดาษหรือวัตถุพยานวางตามลงไป จากนั้นนำอุปกรณ์กดทับวางทับลงบนวัตถุพยาน เพียง 10 วินาที ยกอุปกรณ์ออก เป่าหรือเคาะผงส่วนเกินที่ติดอยู่ออกจากกระดาษหรือวัตถุพยานออก จะปรากฏลายนิ้วที่มีสีน้ำตาลขึ้น หากต้องการให้ลายนิ้วมือชัดมากขึ้นก็มากลับเป็นสีขาวดำได้ วิธีที่ 2 การใช้อุปกรณ์ลูกกลิ้ง เพื่อตรวจหาลายนิ้วมือแฝงบนวัตถุพยานที่เคลื่อนไม่ได้ เช่น ประตู กระจก หรือวัตถุอื่นๆ เช่น ขวด กระป๋อง ก็สามารถตรวจหารอยลายนิ้วมือแฝงได้เช่นกัน
ผศ.ดร.เขมฤทัย กล่าวอีกว่า “ในกรณีที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานต้องการหาลายนิ้วมือให้ชัด ก็ต้องมาพิจารณาก่อนว่า เป็นพื้นผิวแบบไหน มีรูพรุน หรือไม่มีรูพรุน หรือกึ่งรูพรุน เพื่อเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสม แต่ด้วยเปลือกมังคุดนี้ สามารถใช้ได้กับทุกพื้นผิววัสดุช่วยลดขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ลงได้มาก ที่สำคัญไม่ใช้สารเคมีที่เป็นผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจและสิ่งแวดล้อม เพราะสังเคราะห์จากวัสดุธรรมชาติ โดยหากเปรียบเทียบระหว่างผงเปลือกมังคุดที่พัฒนาขึ้น กับการใช้สารละลายนินไฮดริน (Ninhydrin) ที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ตัวสารละลายนี้ปกติจะไม่ทำในที่เกิดเหตุ ต้องนำหลักฐานกลับไปทำในห้องแล็บเท่านั้น โดยใช้วิธีการพ่นหรือจุ่มแช่ลงในสารละลายนินไฮดรินแล้วนำขึ้นมาตากไว้ข้ามวัน ขณะที่ผงเปลือกมังคุดใช้เวลาเพียง 10 วินาที ก็สามารถหารอยลายนิ้วมือแฝงได้แล้ว หรือกรณีการใช้ผงฝุ่นดำตรวจหา ถึงแม้จะใช้เวลาไม่นาน แต่ข้อเสียของผงฝุ่นดำ คือ สามารถใช้หารอยนิ้วมือได้เฉพาะบนพื้นผิวที่ไม่มีรูพรุนเท่านั้น”
ทั้งนี้ ชุดตรวจหาลายนิ้วมือแฝงโดยใช้ผงเปลือกมังคุด ได้มีการทดสอบร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐานและได้รับการยืนยันว่าสามารถใช้งานได้จริง จึงต้องการให้ภาคเอกชนที่สนใจต่อยอดเชิงพาณิชย์ซึ่งหลังจากนี้ทางศูนย์ฯ พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ดังกล่าวให้แก่ภาคเอกชนหรือผู้ประกอบการที่สนใจนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์ต่อไป
#มจธ. #ผงเปลือกมังคุด #ลายนิ้วมือแฝง #พิสูจน์หลักฐาน #ศูนย์วิจัยASESS