“ปูนซีเมนต์นครหลวง” รับมอบโล่ เชิดชูเครือข่ายพัฒนาฝีมือแรงงาน

“ปูนนครหลวง” ภายใต้แบรนด์อินทรี (INSEE) รับมอบโล่เชิดชูเครือข่ายพัฒนาฝีมือแรงงานจากกระทรวงแรงงานโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดพิธีมอบโล่เกียรติคุณให้เครือข่ายพัฒนาฝีมือแรงงาน 31 แห่ง ขอบคุณที่ช่วยพัฒนากำลังคนป้อนอุตสาหกรรมภายใต้สถานการณ์โควิด-19

นายศิวะ มหาสันทนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับ www.ucdnews.com ว่าเมื่อวันที่ 22 เม.ย.65 เวลา 11.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานมอบโล่เกียรติคุณให้แก่เครือข่ายพัฒนาฝีมือแรงงาน จำนวน 31 แห่ง เพื่อเชิดชูเกียรติคุณให้แก่เครือข่ายพัฒนาฝีมือแรงงานที่มีส่วนสนับสนุนกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ให้ดำเนินการตามภารกิจด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานให้สำเร็จบรรลุเป้าหมายภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมอบหมายให้นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบโล่เกียรติคุณให้แก่เครือข่ายพัฒนาฝีมือแรงงาน ณ ห้องประชุมจอมพล ป. พิบูลสงคราม อาคารกระทรวงแรงงาน

นอกจากนั้นนายศิวะยังกล่าวถึงแนวทางการรุกทางธุรกิจในปีนี้และปี 2566 ว่า มุ่งนำเสนอเทรนด์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่นปัจจุบันเทรนด์การรักษาสิ่งแวดล้อมและการลดผลกระทบเรือนกระจกและคาร์บอน ช่วงที่ผ่านมาปูนได้มีการผลิตมาจากแหล่งฟอสซิลที่ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 และเกิดกาซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งปัจจุบันยังได้พัฒนา และยกระดับปูนเม็ดจากการเผาด้วยการพัฒนานวัตกรรมให้เกิดคาร์บอนฯน้อยลง อีกทั้งยังใช้นวัตกรรมเกี่ยวกับคอนกรีตด้วยเทคโนโลยีทันสมัยมาปรับใช้ในกระบวนการผลิตให้มีคาร์บอนฯน้อยลงด้วยการแยกบดหินปูนอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการผลิตรูปแบบเดิมๆที่ผ่านมา

ปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งพัฒนาโครงการเพิ่มประสิทธิภาพโดยการ ยกบดหินปูนช่วยลดโลกร้อน ณ โรงงาน 3 จังหวัดสระบุรี เพื่อลดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยมีการแยกบดหินปูนและวัตถุดิบหลักอื่นๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุด โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีนี้ไปจนถึงสิ้นไตรมาสที่ 4 นี้ใช้งบประมาณลงทุนจำนวน 350 ล้านบาท

“การผลิตของโครงการนี้จะตั้งเป้าให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมปูนทั้งหมด ตามเป้าหมายของสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์เพื่อให้เป็นพอร์ตแลนด์คอมโพสิตซีเมนต์ภายในระยะ 3 ปีนี้ ส่วนต่างประเทศเริ่มแล้วที่กัมพูชา ส่วนประเทศอื่นอาจจะต้องดูแอพพิเคชั่นอีกครั้งว่าจะเอาไปใช้งานในด้านใดบ้าง”

ทั้งนี้นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ตามแนวทางประชารัฐของรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงานได้ใช้แนวทางประชารัฐสร้างเครือข่ายพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อดำเนินการตามนโยบายกระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านการพัฒนายกระดับทักษะฝีมือแรงงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมและระบบเศรษฐกิจของประเทศ รองรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

สำหรับการมอบโล่เกียรติคุณในครั้งนี้เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและขอขอบคุณเครือข่ายการพัฒนาฝีมือแรงงานจำนวน 31 แห่ง ได้แก่ (1) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (2) สมาคมช่างเหมาไฟฟ้าและเครื่องกลไทย (3) สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (4) มหาวิทยาลัยศรีปทุม (5) โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (6) มูลนิธิเอสซีจี (7) มูลนิธิพัฒนาฝีมือแรงงาน (8) บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด (9) บริษัท เค คอนซัลติ้ง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด (10) บริษัท ชไนเดอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (11) บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด (12) บริษัท แซง-โกแบ็ง เวเบอร์ จำกัด (13) บริษัท เด็นโซ่ อินเตอร์เนชั่นแนล เอเชีย จำกัด (14) บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียร์ริ่ง แอนด์ เมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด(15) บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (16) บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด (17) บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) (18) บริษัท นัสโก้ ซานิทารีแวร์ (ประเทศไทย) จำกัด (19) บริษัท นิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด (20) บริษัท เน็กซเตอร์ ดิจิตอล จำกัดจำกัด (21) บริษัท บุญถาวรเซรามิค จำกัด (22) บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) (23) บริษัท มาเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (24) บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด (25) บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด (26) บริษัท อีมิแน้นท์แอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (27) บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด (28) บริษัท แอโร กรุ๊ป (1992) จำกัด (29) บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (30) บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และ (31) บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)

โดยทั้ง 31 รายดังกล่าวได้ให้การสนับสนุนภารกิจกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในหลายด้าน อาทิ งบประมาณ เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์การฝึก สถานที่ วิทยากร รวมมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท สามารถจัดฝึกอบรมและทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานให้แก่ช่างฝีมือ ช่างชุมชน พนักงานในสถานประกอบกิจการ และประชาชนทั่วไป ได้จำนวน 2,959 คน รวมถึงใช้ในการจัดการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติได้อีกด้วย ซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้ภารกิจของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในการผลิตกำลังแรงงานป้อนสู่อุตสาหกรรมการผลิต ก่อสร้าง ยานยนต์และชิ้นส่วน ภาคบริการและท่องเที่ยว ซึ่งดำเนินการได้ยากลำบากมากยิ่งขึ้นภายใต้สถานการ์โควิด-19

“โล่เกียรติคุณที่มอบให้แก่เครือข่ายทั้ง 31 แห่งในวันนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงความขอบคุณและเชิดชูเกียรติแล้ว ยังเป็นสิ่งยืนยันถึงความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการยกระดับคุณภาพการบริการให้ตรงใจผู้รับบริการ สร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคแรงงานและเศรษฐกิจของประเทศ และพี่น้องแรงงานยังรักษางาน รักษารายได้อย่างมั่นคงภายใต้สถานการณ์โควิด-19” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว