สผ.กระตุ้นท่องเที่ยวเมืองเก่ายุค News Normal
สผ.หนุนคนไทยส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสนองนโยบายรัฐบาล ล่าสุดจับมือม.ศิลปากรจัดสัมมนาวิชาการในหัวข้อ “เชื่อมเมืองเก่า สู่โอกาส : การสร้างเครือข่ายเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาสู่เมืองเก่าวิถีใหม่และความยั่งยืน” ดีเดย์ 31 สค.- 1 ก.ย.นี้เพื่อต่อยอดการพัฒนาไปสู่เป้าหมายได้อย่างสัมฤทธิ์ผล
ดร.รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ภาวะการท่องเที่ยวของไทยเดิมนั้นจะพึ่งพานักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ แต่ผลกระทบจากช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้ไทยต้องเร่งปรับตัวครั้งใหญ่ โดยไม่ต้องรอให้นักท่องเที่ยวกลับมา คนไทยในประเทศสามารถช่วยกันส่งเสริมการท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆได้อีกด้วย
ดังนั้นสผ.จึงให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมไทยเที่ยวไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเมืองเก่าในปัจจุบันว่ามีที่มา-ที่ไปอย่างไรบ้าง อยากให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้กันมากขึ้นจากหลักฐานที่ปรากฎอยู่ในปัจจุบัน
สำหรับความเชื่อมโยงภายหลังที่คณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า ได้ประกาศขอบเขตเมืองเก่าไปแล้ว ตัวประกาศดังกล่าวจะขับเคลื่อนโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ด้วยการบูรณาการร่วมหน่วยต่างๆในแต่ละจังหวัด โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนเมืองเก่าจังหวัดเป็นผู้ประสาน ดังนั้นจึงต้องการให้คนไทยเที่ยวเมืองไทยกันมากขึ้นเนื่องจากเดิมนั้นไทยจะต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นหลัก แต่จากวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้ไทยต้องปรับตัว
ทั้งนี้สผ.ในฐานะหน่วยงานกลางขับเคลื่อนภายใต้กรอบการทำงานคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า จึงร่วมกับ มหาวิทยาลัยศิลปากร กำหนดจัดการประชุมวิชาการคณะอนุกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า ในหัวข้อ “เชื่อมเมืองเก่า สู่โอกาส : การสร้างเครือข่ายเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาสู่เมืองเก่าวิถีใหม่และความยั่งยืน” (Connecting the Dots : Enhancing Networks for Conservation and Sustainable Development to The New Normal of Old Towns)
โดยยังคงให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชน ให้มีความรู้ความเข้าใจเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาชุมชนและเมืองเก่าให้เกิดประโยชน์และมีความยั่งยืน ซึ่งนับเป็นหัวใจสำคัญของงานขับเคลื่อนการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า
เลขาธิการ สผ. กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าให้เกิดความยั่งยืน และสามารถต่อยอดการพัฒนาไปสู่เป้าหมายได้อย่างสัมฤทธิ์ผลได้นั้นต้องอาศัยฐานของหลักวิชาการสนับสนุนให้ดำเนินไปในทิศทางที่เหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ที่มีความแตกต่างกัน ดังนั้น การศึกษาวิจัยเพื่อการพัฒนาในระดับพื้นที่จึงเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งในการขับเคลื่อนงานอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าเป็นต้นทุนสำหรับการพัฒนาได้อย่างยั่งยืน จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทย เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในงานเชื่อมเมืองเก่า สู่โอกาส : การสร้างเครือข่ายเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาสู่เมืองเก่าวิถีใหม่และความยั่งยืน ในครั้งนี้ด้วย
ประการสำคัญ “เมืองเก่า” เป็นนิยามของเมืองที่มีคุณลักษณะและองค์ประกอบเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ ทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น ทั้งคุณค่าในมิติทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และศิลปะ อันเป็นรากฐานสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ ซึ่งควรค่าแก่การอนุรักษ์และส่งเสริมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่น่าภาคภูมิใจของชุมชน รวมถึงการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีความโดดเด่นของประเทศ
ดังนั้นด้วยความสำคัญดังกล่าวข้างต้น ทำให้รัฐบาลได้กำหนดนโยบายการดำเนินงานอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าเป็นพิเศษเฉพาะพื้นที่ โดยมีคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เป็นสำนักงานเลขานุการ
นอกจากนั้นการดำเนินงานอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบขอบเขตพื้นที่เมืองเก่า และกรอบแนวทางการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า โดยคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า ได้ประกาศเขตพื้นที่เมืองเก่าตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า พ.ศ. 2546 แล้วรวม 32 เมือง พร้อมกับแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าระดับเมือง และมีเมืองเป้าหมายที่อยู่ระหว่างดำเนินการประกาศเขตพื้นที่เมืองเก่าเพิ่มเติม 4 เมือง (เมืองเก่าร้อยเอ็ด เมืองเก่าฉะเชิงเทรา เมืองเก่าตรัง และเมืองเก่าอุทัยธานี)
“การดำเนินงานอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่านับเป็นเรื่องที่สำคัญ ในฐานะที่ สผ. เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า ตระหนักและเห็นว่าจะต้องขับเคลื่อนงานอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าให้บรรลุเป้าหมายตามเจตนารมณ์ของรัฐบาล เพราะว่าเมืองเก่า นอกจากจะเป็นมรดกของชาติแล้ว ยังเป็นต้นทุนทางสังคม เศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเป็นที่ทราบกันดีถึงสถานการณ์ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญเกี่ยวกับวิกฤตโควิด-19 ที่สร้างบทเรียนสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตรวมทั้งการดำเนินงานในด้านต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อให้การอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ในปี 2563 จึงได้จัดกิจกรรมสัมมนาวิชาการดังกล่าว”
เลขาธิการ สผ. กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การจัดงานประชุมวิชาการคณะอนุกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า ในหัวข้อ “เชื่อมเมืองเก่า สู่โอกาส : การสร้างเครือข่ายเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาสู่เมืองเก่าวิถีใหม่และความยั่งยืน” กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 31 สิงหาคม – 1 กันยายน พ.ศ. 2563 ณ ห้องประชุมทรูไอค่อน ฮอลล์ ศูนย์การค้าไอค่อนสยาม
วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้าร่วมปฏิบัติงานในเมืองเก่ามีความรู้ความเข้าใจ เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการดำเนินงานอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า ทั้งเป็นเวทีที่จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ให้ข้อคิดเห็นและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า รวมทั้งเสนอปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า เพื่อจะได้นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้จากการประชุมสัมมนาวิชาการฯ เป็นแนวทางในการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าที่เหมาะสม และนำไปสู่การขับเคลื่อนและผลักดันให้แต่ละเมืองได้ดำเนินการตามกรอบแนวทางการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าให้สัมฤทธิ์ผลต่อไป