“พงษ์เทพ” ยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนแมตชิ่งธุรกิจ

admin

“พงษ์เทพ” ยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนแมตชิ่งธุรกิจ

‘พงษ์เทพ เทพกาญจนา’ ปาฐกถาพิเศษงานแมตชิ่งธุรกิจนักลงทุนไทย-สิงคโปร์ ยืนยันพร้อมสร้างความเชื่อมั่นการลงทุนของไทยและสิงคโปร์พร้อมสนับสนุนการเชื่อมโยงโครงการระบบรางกระตุ้นเศรษฐกิจจีน-ไทย-มาเลเซีย-สิงคโปร์เพื่อเชื่อมเครือข่ายทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 สมาคมการค้าอาเซียน-จีน ได้จัดงานพบปะการลงทุนระหว่างนักลงทุนไทยกับนักลงทุนสิงคโปร์ ในรายการ Singapore-Thailand Enterprises Biz-Matching Forum 2024” ที่ร่วมจัดโดยสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย และสมาคมการค้าเศรษฐกิจดิจิทัล โดยไฮไลต์การจัดงานในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย(นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) ได้ปาฐกถาพิเศษให้ผู้เข้าร่วมงานมีใจความตอนหนึ่งว่า สิงคโปร์กับประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีมานาน มีการนำเข้าและส่งออกสินค้าต่อกันซึ่งสิงคโปร์ได้ให้ความสำคัญต่อการลงทุนในประเทศไทย จัดอันดับต้นๆ ของภูมิภาคนี้ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยว

ณ ครั้งนี้สิงคโปร์ได้นำนักธุรกิจมาพบปะกับนักธุรกิจไทย เพื่อหาลู่ทางการค้า การลงทุนเนื่องจาก ณ วันนี้พบว่ามีการลงทุนจากต่างประเทศมาลงทุนในกลุ่มอาเซียนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในเวทีพบปะนักธุรกิจครั้งนี้รัฐมนตรีของมาเลเซียยังบอกว่าจะมีการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษของทั้งสองประเทศคือมาเลเซีย-สิงคโปร์ร่วมกัน อีกทั้งไทย-มาเลเซียยังจะมีการเชื่อมเส้นทางรถไฟจากจีน -สปป.ลาว -ไทย -มาเลเชีย -สิงคโปร์เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งสิงคโปร์เป็นเมืองท่าสำคัญ ดังนั้นหากเส้นทางรถไฟเชื่อมโยงกันได้จะถือว่าเป็นการเชื่อมโยงถึงจีนได้ทั้งประเทศ ไปยังตะวันออกกลาง รวมถึงโซนยุโรป

นอกจากนั้นประเทศไทยยังอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการเชื่อมโยงรถไฟกับจีนผ่านทางหนองคาย ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างเส้นทางช่วงกรุงเทพ-นครราชสีมา ก่อนที่จะเร่งดำเนินการช่วงนครราชสีมา-หนองคายให้เชื่อมไปยังสปป.ลาวและจีนต่อเนื่องกันไปซึ่งจะช่วยพลิกโฉมระบบการขนส่งในภูมิภาคนี้ต่อไป

การพบปะแลกเปลี่ยนความคิดและเชื่อมต่อรูปแบบการลงทุนของนักลงทุนทั้ง 2 ประเทศครั้งนี้จึงมั่นใจว่าจะเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้หาลู่ทางการค้า การลงทุนได้หลากหลายยิ่งขึ้น เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมองการค้า ตลอดจนสินค้าซึ่งกันและกันจึงน่าจะเป็นผลดีต่อทั้ง 2 ประเทศ

“ประเทศไทยมีศักยภาพจะเติบโตในหลายด้านอย่างมากทั้งทำเลที่ตั้ง ความเชี่ยวชาญในบางเรื่อง โดยเฉพาะด้านบริการที่เลื่องชื่อในหลายด้าน แม้ว่าจะมีบางช่วงที่มีปัญหาระบบการปกครอง การเลือกตั้ง เพื่อมุ่งเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ รัฐบาลได้ทุ่มเทการพัฒนาระบบเศรษฐกิจพร้อมมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีความเป็นอยู่ที่ดีกับประชาชน จึงมั่นใจว่าประเทศไทยยังน่าลงทุนและพร้อมให้การสนับสนุนการแมตชิ่งทางธุรกิจให้กับทุกกลุ่มทุกประเทศที่สนใจจะมาลงทุนในประเทศไทยกับนักธุรกิจไทย”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

ศุภาลัย คว้าอันดับในกลุ่ม “ดีเลิศ” ต่อเนื่องปีที่ 12

ศุภาลัย คว้าอันดับในกลุ่ม “ดีเลิศ” ต่อเนื่องปีที่ […]