ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สส.เขต 1 จ.นครพนม

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้เปิดตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดนครพนม อย่างเป็นทางการ โดย ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สส.นครพนม เขต 1 และ ดร.มนพร เจริญศรี สส.นครพนม เขต 2 เพื่อแสดงความพร้อมเตรียมตัวรับเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่ หากรัฐบาลปัจจุบันประกาศยุบสภาตามที่ได้ลั่นวาจาไว้กับประชาชน

ทั้งนี้ สส.ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ www.ucdnews.com ถึงความพร้อมการเลือกตั้งรอบใหม่ในปี 2569 นี้ว่าพรรคเพื่อไทยยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปิดตัวสส.แต่ละพื้นที่เรียบร้อยแล้วสามารถลงพื้นที่พบปะประชาชนได้ทันที โดยเตรียมจัดสัมมนาให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อรับถ่ายทอดนโยบายของพรรคเพื่อไทย พร้อมรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการซื้อ-ขายสินค้าผ่านระบบออนไลน์ที่พรรคเพื่อไทยทำมาอย่างต่อเนื่องและประสบความสำเร็จมาแล้ว อีกทั้งยังคงเดินหน้านโยบายจ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บาทต่อไปซึ่งผู้ที่อายุ 16 ปีขึ้นไปจะได้รับสิทธิดังกล่าวนี้

• พรรคเพื่อไทยพร้อมต่อยอดทำงานเพื่อประชาชน

สส.ดร.ภูมิพัฒน์ ขยายความในเรื่องนี้ว่า เบื้องต้นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้วางงบประมาณประจำปี 2569 เพื่อการพัฒนาด้านต่างๆรองรับไว้หมดแล้ว ครบทุกด้านทั้งระบบน้ำ ไฟฟ้า ถนน โดยเฉพาะการส่งเสริม “ระบบโซล่าเซล” ได้ประกาศออกมาเป็นกฏหมายเรียบร้อยแล้วพร้อมกับอีกหลายเรื่อง หลายโครงการอยู่ระหว่างขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้าง ก่อนจะเร่งผลักดันตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไปสำหรับการขับเคลื่อนงบประมาณปี 2569 จึงเป็นการต่อยอดงบประมาณปี 2568 สู่ปี 2569 อย่างต่อเนื่อง

ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568 คณะ สส.พรรคเพื่อไทยได้ยื่นกฏหมายกัญชง-กัญชาเป็นยาเสพติดและเพื่อใช้ในวงการแพทย์เท่านั้น เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏร เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อเยาวชนลูกหลานไทย เช่นที่เกิดขึ้นแพร่หลายในช่วงที่เปิดเสรีดังที่พบเห็นกันมาแล้ว

นอกจากนี้ยังได้อภิปรายพร้อมยื่นกะทู้ถามกรณีที่ดินว่างเปล่า หัวไร่ปลายนา เพื่อให้เร่งสำรวจรังวัดให้พี่น้องประชาชน เพื่อที่จะสามารถออกโฉนดได้รวดเร็วขึ้น เช่นเดียวกับเรื่องการเร่งปราบปรามยาเสพติดในทุกพื้นที่ โดยประสานฝ่ายปกครองบูรณาการทำงานร่วมกันกับทุกหน่วยให้เกิดผลลัพธ์จริงๆ โดยมีการตรวจสอบแบบเอ็กซ์เรย์ทุกพื้นที่ให้สามารถปราบปรามอย่างได้ผลเป็นรูปธรรม

• เพิ่มสวัสดิการ อสม. ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ภายในช่วงวันที่ 14-17 ตุลาคม 2568 จะมีกฏหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณา โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับพี่น้อง อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) ซึ่งผู้ทำหน้าที่อยู่เดิมจะไม่มีการเกษียณ สามารถเบิกค่าใช้จ่ายค่าเบี้ยประชุม ค่าน้ำมัน ฯลฯ ได้พร้อมกับสามารถรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ขณะนี้ผ่านการพิจารณาวาระแรกเรียบร้อยแล้ว

สำหรับนโยบายด้านเศรษฐกิจ การค้าขายพืชผลการเกษตรในพื้นที่จีงหวัดนครพนมขณะนี้พบว่าราคายางพารามีการปรับราคา เดิมยางก้นถ้วยราคาราว 20-22 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันราคาปรับเป็น 29-32 บาท พบว่าภาคใต้ราคาสูงถึง 50 บาทเนื่องจากเป็นน้ำยางที่ดี แต่บางพื้นที่ราคา 38-39 บาทก็มีให้เห็นมาแล้วตามคุณภาพของน้ำยาง ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไขปัญหานำเข้าน้ำยางเถื่อนตามแนวชายแดนอย่างจริงจังจึงจะสามารถเพิ่มราคายางก้นถ้วยที่สูงขึ้นกว่าปัจจุบันนี้ได้อีก

“หากรัฐบาลสามารถปราบปรามยางเถื่อนได้ทั้งหมดจะส่งผลให้ราคายางสูงถึง 100 บาทต่อกิโลกรัม จึงเป็นอีกหนึ่งนโยบายสำคัญในการเร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำแก่พี่น้องชาวสวนยางของประเทศให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับปัญหาเรียกค่าหัวคิวแรงงานต่างด้าวสูงถึงหัวละ 500 บาทจากเจ้าหน้าที่บางรายฉวยโอกาสยังมีปรากฎให้เห็นจึงต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับผม แจ้งเบาะแสเพื่อให้สามารถเข้าไปปราบปรามได้อย่างเห็นผลชัดเจนโดยเร็ว”

• เร่งยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขยายช่องทางตลาดสินค้าพื้นบ้านสู่โลกออนไลน์ควบคู่กับการเยียวยากรณีน้ำท่วม น้ำแล้ง เพื่อการเร่งช่วยเหลือบรรเทา

สส.ดร.ภูมิพัฒน์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สำหรับจังหวัดนครพนม ขณะนี้พื้นที่ต่างๆ พบว่าฝนเริ่มบรรเทาไปบ้างแล้ว จะเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว จึงต้องเร่งเยียวยาและเตรียมมอบเครื่องนุ่งห่มป้องกันอากาศหนาวที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ต่อไป

โดยวันที่ 13-14 พฤศจิกายน 2568 จะมีการจัดงานพร้อมจัดสัมมนาเกี่ยวกับสินค้าโอท็อป สินค้าพื้นเมืองขึ้นที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาศรีสงครามเพื่อส่งเสริมการนำสินค้าเหล่านี้ไปจำหน่ายบนโลกออนไลน์เต็มรูปแบบมากขึ้น โดยสภาผู้แทนราษฏรพร้อมกับการดูงานด้านต่างๆเพื่อนำไปขับเคลื่อนโครงการช่วยเหลือพี่น้องเหล่าผู้ประกอบการสามารถต่อยอดความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไป

“ขณะนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (อบจ.นครพนม) ยังมีการสอนอาชีพให้พี่น้องประชาชนที่สนใจ ดังนั้นวันที่ 13-14 พฤศจิกายน 2568 นี้จึงถือว่าเป็นงานที่จะช่วยต่อยอดองค์ความรู้ ความสามารถ และเห็นทิศทางการตลาดให้กับเหล่าพี่น้องผู้ประกอบการเพื่อยกระดับขีดความสามารถทางธุรกิจของตนเองให้เข้มแข็ง”

• หนุนโครงการออมเงิน

นอกจากนั้นยังติดตามกรณีอยู่ระหว่างเร่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเร็วๆนี้ต่อกรณีที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้เสนอกฏหมายผ่านความเห็นชอบเรียบร้อยแล้ว เพื่อขับเคลื่อน “หวยเกษียณ” อย่างถูกกฏหมาย ภายใต้ดำเนินการของกองทุนเงินออมแห่งชาติ (กอช.) ส่งเสริมการออมแห่งชาติ มีผลทุกวันศุกร์ประจำสัปดาห์ให้กับผู้ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป โดยสามารถซื้อผ่านแอพพิเคชั่น กอช.ได้เลย โดยซื้อผ่านแอพพิเคชั่นได้ทั่วประเทศตามพระราชบัญญัติการออมแห่งชาติ เพียงแต่จะกำหนดวงเงินการซื้อไว้คนละไม่เกิน 3,000 บาท นับเป็นเงินฝาก เงินออม ที่มีดอกเบี้ยสูง ผู้ที่เริ่มออมตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินเมื่ออายุครบ 60 ปีเป็นเงินก้อนจำนวนมหาศาล ส่วนผู้ที่อายุเกิน 60 ปีจะได้รับเงินทุกๆ 5 ปี หากเสียชีวิตก่อนก็จะตกทอดเป็นมรดกตามกฏหมายแก่ลูกหลานต่อไป ทั้งนี้ภายหลังมีประกาศใช้อย่างเป็นทางการภายในระยะเวลา 60 วันจะมีผลบังคับใช้ได้ทันที ปลายปีนี้น่าจะสามารถเห็นผลเป็นรูปธรรม จึงนับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่พรรคเพื่อไทยทำเพื่อประชาชนให้มีการออมเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ปัจจุบันยังเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจในพื้นที่ยังซึมยาวต่อเนื่อง พรรคเพื่อไทยจึงต้องเร่งกระตุ้น ส่วนภาคการเมืองยังแข่งขันเข้มข้น ผู้สมัครหน้าใหม่ยังมองไม่เห็นชัดเจน แต่เราไม่นิ่งเฉยยังคงเดินหน้าเข้าถึงประชาชนอย่างต่อเนื่องเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะ ตลอดจนเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนให้อยู๋ดีกินดีกันมากขึ้น

เขต 1 อำเภอนาทม นาหว้า ศรีสงคราม บ้านแพง ส่วนเขต 2 มีอำเภอเมืองบางส่วน อำเภอโพนสวรรค์ และอำเภอท่าอุเทน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของ ดร.มนพร เจริญศรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ส่วนเขต 3 เขต 4 คาดว่าจะมีการเปิดตัวในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ต่อเนื่องกันไป

“สำหรับ เขต 1 ทางทีมงานพรรคเพื่อไทยยังลงพื้นที่ต่อเนื่องเพื่อมุ่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนต่างๆให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมกับยื่นกะทู้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร อาทิ ที่ดิน สปก. ปรับมาเป็นการออกโฉนดที่ดิน เป็นต้น การติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อการเกษตร การพัฒนาระบบสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐานต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน ขณะนี้นายอนุชิต หงษ์สาดี นายก อบจ. นครพนม อยู่ระหว่างเร่งขับเคลื่อนโครงการในพื้นที่ อ.นาทม ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการ หากหมดฝนไปแล้วน่าจะสามารถเร่งรัดก่อสร้างและเสร็จรวดเร็วขึ้น โดยจะเชื่อมไปยังพื้นที่อำเภออากาศอำนวยได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น“

ดังนั้นจึงเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ สส.ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ จังหวัดนครพนม เขต 1 และ ดร.เดือน…มนพร เจริญศรี จังหวัดนครพนม เขต 2 ที่อยากบอกไปถึงพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครพนมว่าขอให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค หากพรรคเพื่อไทยได้สส.กว่า 250 คนขึ้นไปจะสามารถกลับมาทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง สามารถต่อยอดโครงการต่างๆ ให้ขับเคลื่อนเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป