การยาสูบยกที่ดิน 3 ทำเล เปิดรับฟังความเห็นนักลงทุน

การยาสูบแห่งประเทศไทย(กยท.) แตกไลน์!!! เปิดเวทีรับฟังความเห็นนักลงทุน(มาร์เก็ตซาวดิ้ง) ให้เช่าที่ดินศักยภาพทำเลทอง 3 ทำเลกรุงเทพฯและเชียงราย ไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ เผยเล็งต่อยอดแผนการพัฒนาอีกเพียบ คาดเพิ่มรายได้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท เร่งเปิดประมูลสิงหาคมนี้

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ณ ห้องเพลินจิต โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์พอยน์เพลินจิต กรุงเทพฯ นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการ การยาสูบแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานการเปิดประชุมรับฟังความเห็น และทดสอบความสนใจของนักลงทุน(Market Sounding) โครงการพัฒนาที่ดินพร้อมผลตอบแทนการจัดหาประโยชน์ของการยาสูบแห่งประเทศไทย ปีงบประมาณ 2567 ว่า กยท. ดำเนินการเปิดประมูลให้เช่าที่ดินศักยภาพในการให้เอกชนผู้สนใจนำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ทั้งระยะสั้น ระยะยาวสูงสุดถึง 30 ปี จำนวน 3 โครงการจากที่ดินรวม 150 แปลงรวมพื้นที่มากกว่า 6,000 ไร่ทั่วประเทศ ให้นำไปพัฒนาก่อน 3 ทำเลทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดเชียงราย โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มรายได้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทและเปิดขายเอกสารการประมูลได้ในเดือนสิงหาคมนี้

สำหรับแนวทางการพัฒนาที่ดินทั้ง 6,000 ไร่นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ การพัฒนาเชิงพาณิชย์ เชิงอุตสาหกรรม และเชิงเกษตร โดยการพัฒนาเชิงพาณิชย์มีราว 15% แม้ว่าจะมีสัดส่วนน้อยแต่จัดว่าเป็นพื้นที่มีศักยภาพสูง ใจกลางเมือง สร้างมูลค่าได้สูงตามวัตถุประสงค์ สัดส่วนเชิงเกษตรอีกราว 60-70% ที่เหลือเป็นอุตสาหกรรม

“การพัฒนาเชิงพาณิชย์นั้นได้ผ่านการตรวจสอบจากบริษัทที่ปรึกษาแล้วว่าบางแปลงเหมาะกับการให้เช่าระยะยาว 30 ปี บางแปลงเหมาะกับการให้เช่า 10 ปี บางพื้นที่ยังกำหนดข้อจำกัดให้มีพื้นที่สีเขียวอีกทั้งยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่เปิดให้เช่าปลูกใบยาสูบรองรับได้อีกหลายแปลงที่จะนำไปใช้ประโยชน์ด้านคาร์บอนเครดิตได้อีกทางหนึ่งด้วย เช่นเดียวกับแปลงให้เช่าระยะ 3-5 ปี ส่วนโซนอุตสาหกรรมจะดูในเรื่องว่าสามารถดำเนินการด้านอุตสาหกรรมหรือโลจิสติกส์อะไรได้บ้างที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้า”

ทั้งนี้ภายในงานยังได้จัดให้มีการเสวนาเรื่อง “Lost World in The City การเปิดโอกาสในการพัฒนาที่ดินซึ่งเป็นทรัพย์สินของรัฐวิสาหกิจในมุมมองของการพัฒนาเมือง” โดยวิทยากร รศ.ดร.จิตติศักดิ์ ธรรมาภรณ์พิลาศ ผศ.ดร.ณัฐพงศ์ พันธ์น้อย ผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมืองและการพัฒนาเมือง ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผศ.ดร.ชูชาติ เตชะโพธิวรคุณ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พร้อมกับการรับฟังการชี้แจงรายละเอียดของพื้นที่ทั้ง 3 โครงการจากผศ.ดร.ปิติ เอี่ยมจำรูญลาภ นางสาวนันทกา มารักษ์กุล หัวหน้าสำนักพัฒนาธุรกิจ กยท. พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนและนักลงทุนที่มีความสนใจ ร่วมแสดงความคิดเห็น ให้ข้อเสนอแนะต่อการดำเนินโครงการ เพื่อนำไปสู่การสรุปแนวทางในการให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนต่อไป

ผู้ว่าการ กยท. กล่าวอีกว่า นอกจากที่ดินทั้ง 3 แปลงกยท.ยังมีที่ดินอีกหลายทำเลที่จะนำออกประมูล อาทิ แปลงโรงงานยาสูบ 1 ด้านหน้าติดถนนเจริญกรุง ด้านหลังตืดแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับเอเชียทีค ขนาดพื้นที่ประมาณ 5 ไร่เป็นที่ดินโรงงานผลิตยาสูบแห่งแรก ส่วนอีกแปลงได้แก่ โกดังตะวันออก อยู่ตรงข้ามแปลงโกดังโรงงานยาสูบ 1 ขนาดพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ เดิมเป็นอาคารโกดังเก็บใบยาสูบเพื่อรอการผลิต

นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ลำปาง ซึ่งในอดีตกยท.มีสำนักงานตั้งอยู่ในจังหวัดลำปาง ริมถนนบุญวาทย์ ปัจจุบันไม่ได้ใช้งาน อาคารยังอยู่ในสภาพดีสามารถนำมาพัฒนาใช้ประโยชน์ได้

อีกทั้งยังมีที่ดินอีกหลายแปลงในทำเลใจกลางเมือง ย่านธุรกิจ ในอีกหลายจังหวัดทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นที่ตั้งสำนักงาน บางแปลงเคยใช้ประโยชน์เป็นแปลงเพาะปลูกใบยาสูบที่สามารถนำมาพัฒนาจัดสรรประโยชน์โดยการให้เช่าระยะสั้น 3 -5 ปี อาทิ เพชรบูรณ์ หนองคาย ขอนแก่น สุโขทัย แพร่ เชียงใหม่

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเปลี่ยนแปลงสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกยท.จะช่วยสร้างรายได้ในเบื้องต้นนี้ได้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาทจากรายได้ในภาพรวมต่อปีมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท และมีส่วนช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทย สร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับชุมชนในพื้นที่เปิดประมูลได้อีกด้วย

สำหรับ 3 โครงการที่นำร่องออกประมูลให้เช่าที่ดินไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ประกอบไปด้วย โครงการที่ 1 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 10 เขตคลองเตย กรุงเทพฯ แปลงที่ดินโฉนดเลขที่ 4744 และ 5215 พื้นที่รวม 2 ไร่ 2 งาน 93.1 ตารางวา เปิดให้เช่าระยะยาว 30 ปี ทำเลที่ดินติดสวนเบญจกิติฝั่งเหนือ เป็นพื้นที่ศักยภาพสูง บรรยากาศริมน้ำ ร่มรื่น ใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะสำหรับการพัฒนาในรูปแบบกิจกรรมการพักผ่อนหย่อนใจ ท่องเที่ยว ที่พักอาศัย และกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่นๆ

โครงการที่ 2 เป็นพื้นที่บางส่วนของสำนักงานใหญ่กยท. เขตคลองเตย กรุงเทพฯ แปลงที่ดินโฉนดเลขที่ 3505 และ 3507 โดยเปิดให้เช่าที่ดินเปล่า พร้อมอาคารกีฬาในร่ม สนามแบตมินตัน และสนามเทนนิส พื้นที่โครงการประมาณ 9 ไร่ เหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการรูปแบบกิจกรรมด้านกีฬาและสันทนาการ อายุสัญญาเช่า 10 ปี

ส่วนโครงการที่ 3 อยู่ในพื้นที่แปลงสถานีใบยาเวียงพาน ถนนพหลโยธิน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พื้นที่รวมประมาณ 75 ไร่ แปลงที่ดินขนาดใหญ่ต้ดทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 เข้าถึงได้ง่ายใกล้เขตเมืองการค้าชายแดนและเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ใกล้กับสถานที่ราชการ โรงพยาบาล และสวนสาธารณะ ที่ดินจัดเป็นแปลงที่มีศักยภาพรองรับโครงการขนาดใหญ่ ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคได้เป็นอย่างดี

สำหรับการสัมมนาเพื่อรับฟังความเห็นนักลงทุนในครั้งนี้พบว่ามีกลุ่มทุนชั้นนำจากกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา กลุ่มนันทวัน กลุ่ม AssetWise กลุ่ม Heritage Estate กลุ่ม MBK กลุ่มเนเจอร์โฮม กลุ่มเอเปคเมดิคัลเซ็นเตอร์ กลุ่ม EEG Group กลุ่มบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้า BEM ฯลฯ ร่วมเข้ารับฟังรายละเอียดต่างๆของโครงการ