ส่องโปรฟายน์ความสำเร็จ“คุณสมาน บุญยอ” จากธุรกิจการ์เม้นท์สู่อาณาจักรอาหารทะเล “สมานซีฟู้ดสำเพ็ง 2”
(ตอนจบ)
ขอเอาใจมาสู้ ไม่ต้องเก่งเลอเลิศมาจากไหน
สำหรับธุรกิจร้านลาบ-ส้มตำ ผมก็ใช้แนวทางขับเคลื่อนธุรกิจคล้ายๆกัน ทำน้ำจิ้มให้อร่อย ควบคู่ไปกับการสร้างบรรยากาศให้น่ารับประทานอาหาร ปูพื้นด้วยหญ้าเทียม ประดับไฟให้มีสีสันสวยงาม ขับกล่อมด้วยวงดนตรีเบาๆ ส่งผลให้ต้องเพิ่มจำนวนโต๊ะจาก 3 โต๊ะ 5 โต๊ะ เป็น 60 โต๊ะในปัจจุบัน
การทำงาน ณ ที่นี้ผมบอกลูกน้องเสมอว่า ขอเพียงเอาใจมาสู้เท่านั้นไม่ต้องเก่งมาจากไหน ยิ่งเก่งยิ่งเอาเปรียบก็มี ยิ่งเก่งยิ่งเห็นแก่ตัวก็มี หลายคนน้อยใจหายไปก็มีให้เห็นมาแล้ว ในฐานะหัวเรือหากเกิดอะไรขึ้นก็พร้อมรับผิดชอบ สิ่งไหนถ้ามีรายได้เราจะก้าวไปด้วยกัน แต่หากทำแล้วเจ๊งลูกน้องเพียงเดินไปสมัครงานใหม่เท่านั้น
ปัจจุบันหลายธุรกิจยังอยู่ เพียงแต่ลดความเข้มข้นลงไปบ้างเท่านั้น ขณะนี้ร้านแซบสมานสไตล์อาหารอีสานเริ่มเฟื่องฟูขึ้นมา ราคาสบายกระเป๋า บรรยากาศชิลล์ๆ ที่จอดรถสะดวกสบายเข้าถึงง่าย ล้วนเกิดจากลูกค้าบอกต่อๆ กันไปทั้งสิ้น
แผนธุรกิจ 3 ปี 5 ปี
ปัจจุบันลูกสาวคนโตที่เรียนจบมาแล้ว ผมมอบหมายให้ไปดูแลฝ่ายขายที่โบ้เบ้ ส่วนคนเล็กเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 5 วิทยาลัยอัสสัมชัญ หน้าที่การงานของพี่สาวหากเสร็จที่โบ้เบ้ก็ให้มาดูแลต่อที่ร้านลาบ-ส้มตำ ราว 2-3 ทุ่มค่อยไปพักผ่อน ลูกๆ ต้องคุ้นเคยความลำบากจากการทำงาน หากจะก้าวสู่ผู้บริหารจะต้องเริ่มสะสมประสบการณ์ไปก่อน ฝึกใจให้แกร่ง ขยัน อดกลั้นอดทน ประการสำคัญฐานรากของสมานการ์เม้นท์เติบโตมาจากการเย็บผ้าลูกๆ จึงต้องเรียนรู้การเย็บ การตัด การบริหารสต็อกจนนำไปสู่การขาย หลักบริหารต้องเข้าใจ เข้าถึงจริงๆ โดยเฉพาะระบบบัญชี จัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ระบบประกันสังคม ต้องสามารถดำเนินการตามอย่างถูกต้อง
“ณ วันนี้ผมย่างเข้าสู่วัย 46-47 ปียอมรับว่าอยากเกษียณตัวเอง แต่ขณะนี้ยังปล่อยมือไม่ได้ ราวๆ อีก 10 ปีหลังจากนี้ยังยืนหยัดต่อสู้ได้อีก ใจอยากสร้างรายได้ให้ถึงพันล้านบาท และเคยบอกลูกน้องทุกคนเสมอว่า 100 ล้านบาทยังเหนื่อยถึงเพียงนี้แล้วหากเป็น 1,000 ล้านบาทพวกเราจะเหน็ดเหนื่อยกันเพียงไหน แล้วจะมีคนเดินร่วมทางอีกสักกี่คน จึงวัดใจเราว่าจะสู้ได้นานแค่ไหน สู้อย่างไร หากรวยลูกน้องต้องรวยไปด้วยกัน”
ดังนั้นแผนธุรกิจนับจากนี้ผมจะต้องเร่งสร้างฐานให้มั่นคงขึ้น น้ำขึ้นให้รีบตัก ระหว่างทางหากเจออะไรที่อยากทำหรือสามารถทำได้ก็จะเข้าไปทำ เช่นการพัฒนาอาณาจักรอาหารทะเล เพราะหากที่นี่สำเร็จปลายปีนี้หรือปลายปีหน้าก็จะขยายสาขาต่อเนื่องกันไป โดยเฉพาะทำเลย่านรังสิตและบางนา ไม่แน่อาจมีร้านทั้ง 4 มุมเมือง ขอเพียงพัฒนาสาขาสำเพ็ง 2 ให้สำเร็จแล้วจะเห็นสิ่งที่จะทำต่อไปได้อย่างแน่นอน
นอกจากนั้นยังเห็นว่าวิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นมาแล้ว 3 ปีเชื่อว่ายังต้องปรับปรุงแก้ไขอีกหลายด้านกว่าจะเข้าที่เข้าทางเป็นปกติ ไล่เลียงมาจากธุรกิจที่ทำมาแล้วบ้าง โดยเฉพาะขณะนี้ธุรกิจสมานเรดิโอพร้อมเผยแพร่ผ่านสื่อช่องทางออนไลน์อีกหลายช่องทาง เตรียมดึงมวลชนเดิมมาร่วมขับเคลื่อนคลื่นนี้ต่อไป
อยากให้ภาครัฐสนับสนุนด้านใดบ้างหรือไม่
ผมเห็นว่าการปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการมากที่สุด ยอมรับว่า “สมานการ์เม้นท์” ก็เติบโตมาจากการกู้หนี้ยืมสิน ไม่มีต้นทุนทางธุรกิจสนับสนุน มีหนี้จำนวนมากเช่นกันแต่ก็ไม่ถึงขั้นติดเครดิตบูโร หากรัฐช่วยเรื่องเงินทุนจะสามารถสร้างความเข้มแข็งทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการอีกหลายๆ คน ช่วงที่ผ่านมาผมสู้ทุกแบงค์ สู้ทุกดอกเบี้ยเพื่อประคององค์กรให้ขับเคลื่อนต่อไปได้ ผ่านโควิด -19 ไปได้ผมก็พอใจแล้ว ต่อไปคงไม่มีอะไรน่ากลัวขนาดนี้อีก
ในส่วนทีมงานนั้นยังมองว่าระหว่างทางขับเคลื่อนธุรกิจ ย่อมจะเห็นว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว เรือลำใหญ่ผู้โดยสารก็จะเยอะ อยากให้รู้ว่าหลักการคือ…อยากพาทุกคนไปด้วยกันขอเพียงอดทนอดกลั้น อย่ามองแค่ตนเองเท่านั้น ขอให้มององค์กรโดยรวม รู้ว่าทุกคนเหนื่อย ดังนั้นหากถึงปลายทางก็จะรู้เองว่าใครที่ยอมสู้จริงเพื่อทุกคน จึงขอบอกลูกน้องทุกคนว่า…ขอให้อดทนอดกลั้นเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจร่วมกัน