กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ลุยเต็มสูบ เป้าโต 15%
กลุ่มบิวท์ฯ เผย 2 เดือนแรกลูกค้าสร้างบ้านตอบรับดี เชื่อปัจจัยบวกเรื่องวัคซีนต้านโควิด และอัตราดอกเบี้ยต่ำลงช่วยดึงความเชื่อมั่นและดีมานด์ลูกค้ากลับมาตื่นตัวดีขึ้น เตรียมเดินหน้าเต็มกำลังจ่อปล่อยแบบบ้านเทรนด์ใหม่มาแรง พร้อมอัดงานออกบูธ Event แน่นหวังเรียกกำลังซื้อตลอดทั้งปี
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ภาพรวมของสถานการณ์ธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2564 คาดว่าจะดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ฟื้นตัว หลังจากที่ทั่วโลกประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเริ่มมีการทยอยฉีดในต่างประเทศและในไทยไปบ้างแล้วนั้น ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมทั้งด้านการส่งออก การการท่องเที่ยว และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐกลับมาฟื้นตัว และปรับตัวดีขึ้นตามลำดับในไตรมาส 3 / 64 เป็นต้นไป แน่นอนว่าจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนและผู้บริโภคโดยทั่วไปให้กลับมาได้ในระดับหนึ่ง เพราะเหมือนเป็นการได้แก้ปัญหาจากต้นเหตุที่กระทบต่อทุกภาคส่วนตลอดปี 63 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การดำเนินงานของธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าความต้องการของลูกค้าสร้างบ้านเริ่มกลับมากระเตื้องและฟื้นตัวดีขึ้น โดยสังเกตได้จาการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลการสร้างบ้านเข้ามาในปริมาณที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในปีนี้ยังมีอีกปัจจัยบวกที่จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น คือในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ และคาดว่าจะยังคงต่ำอย่างต่อเนื่องไปอีกสักระยะ โดยในช่วงที่ผ่านมาหลายสถาบันการเงินได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จึงทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้มากขึ้น และจะช่วยส่งเสริมการเกิดดีมานด์ในธุรกิจรับสร้างบ้านให้มีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้นเช่นกัน
จากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา ถือเป็นวิกฤตที่ทำให้กลุ่มบริษัทฯ ได้มีโอกาสทำการตลาดแนวใหม่ได้หลากหลายช่องทางและวิธีการมากยิ่งขึ้น โดยสามารถสื่อสารทางตรงและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างสะดวกรวดเร็วและสื่อสารในวงกว้างได้มากขึ้น ทั้งการรีวิวผลงานสร้างบ้าน เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพและงานก่อสร้าง การแนะนำแบบบ้านและขายแบบออนไลน์ ตลอดจนการให้บริการแก่ลูกค้าถึงบ้านผ่านบริการ Service @ Your Home ซึ่งยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ในปีนี้กลุ่มบริษัทฯ จะนำมาใช้อย่างต่อเนื่องผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ แต่หากให้มองถึงปัจจัยลบเชื่อว่ายังคงมีอยู่บ้าง เพราะคงมีลูกค้าบางส่วนที่ยังเฝ้ารอดูและติดตามให้สถานการณ์ในภาพรวมฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น จึงจะเกิดการเคลื่อนไหวและตัดสินใจลงทุนสร้างบ้าน
สำหรับการดำเนินงานของกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ในปี 2564 นี้ คาดว่าจะสามารถผลักดันให้เติบโตได้ประมาณ 10-15% จากปัจจัยต่างๆ ดังที่กล่าวข้างต้น และยังคงเดินหน้าทำการตลาดรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ได้งดรายการออกบูธ Event ใหญ่ไปถึง 2 รายการ คือ “งานรับสร้างบ้าน Focus” และ “งานสถาปนิก” ซึ่งในปีนี้สามารถกลับมาดำเนินกิจกรรมของทั้ง 2 งานได้ตามปกติ รวมถึงงานออกบูธตาม Event ต่างๆ ที่กำหนดแผนงานไว้แล้วตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการจัด Site Seeing “สร้างบ้าน ต้องเห็นบ้าน” อีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็น Signature สำคัญของกลุ่มบริษัทฯ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าตลอดการจัดงานทุกครั้งที่่ผ่านมา ทั้งนี้จากแผนงานที่วางไว้เชื่อว่าจะมีผลดีต่อการเติบโตด้านยอดขายของกลุ่มบริษัทฯ และส่งผลดีต่อธุรกิจรับสร้างบ้านได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่หากจะให้ธุรกิจรับสร้างบ้านกลับมาฟื้นตัวและเติบโตเหมือนช่วงก่อนมีการระบาดของโควิด-19 นั้น คาดว่าจะสามารถกลับมาเป็นปกติได้ในปี 65 เป็นต้นไป
ล่าสุดในปีนี้กลุ่มบริษัทฯ ยังได้ดีไซน์แบบบ้านใหม่เพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าสร้างบ้านในทุกระดับราคา และทุกความต้องการของบ้านแต่ละสไตล์ในยุคปัจจุบัน โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ ได้ปล่อย 3 แบบบ้านใหม่ New Design 2021 ในสไตล์ “ Nordic ” เทรนด์บ้านมาแรงในยุคนี้ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ ในงานออกบูธ “รับสร้างบ้าน FOCUS 2021” พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ และต่อเนื่องในงาน “บ้านสวนแฟร์ Select 2021” ซึ่งกลุ่มบริษัทฯมองว่า ยังคงเป็นโอกาสและช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับลูกค้าที่มีแผนสร้างบ้าน เพราะเชื่อว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงอัดโปรโมชั่นสร้างบ้านในราคาพิเศษ ซึ่งจะสามารถสนับสนุนความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคในช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี