กลุ่ม IHG เปิดฮอลิเดย์ อินน์ ภูเก็ต กะตะ บีช

IHG ขยายธุรกิจในไทย วางแผนเปิดฮอลิเดย์ อินน์ และ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีท ภูเก็ต กะตะ บีช ลงนามสัญญาความร่วมมือครั้งใหม่ สองฉบับ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจโรงแรมของประเทศไทย

กลุ่มอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทลส์ กรุ๊ป (IHG®) หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจโรงแรมของโลก ประกาศลงนามในข้อตกลงการบริหารจัดการโรงแรมร่วมกับ เค ดับบลิว กรุ๊ป ในการนำแบรนด์ ฮอลิเดย์ อินน์ และ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส สู่หาดกะตะ ภูเก็ต
 
โรงแรมทั้งสองแห่งมีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2565 ซึ่งจะเป็นส่วนเติมเต็มอันโดดเด่นให้กับโครงการเดอะ บีช พลาซ่า ภูเก็ต โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดของหาดกะตะ ตั้งอยู่หากจากชายหาดเพียง 5 นาที

ฮอลิเดย์ อินน์ ภูเก็ต กะตะ บีช มีห้องพักกว่า 134 ห้อง และพร้อมรับรองแขกด้วยห้องอาหารและห้องประชุมมากมาย รวมถึงสระว่ายน้ำและยิม เพิ่มเติมด้วยห้องพักอีก 135 ห้องจาก ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีท ภูเก็ต กะตะ บีช มาพร้อมห้องอาหาร Great Room อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
 
คุณเซเรน่า ลิม รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ อินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเต็ลส์ กรุ๊ป (ไอเอชจี) ภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี กล่าวว่า เรามีความยินดีเป็นอย่างมากในการขยายครอบครัวแบรนด์ฮอลิเดย์อินน์ของเราในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสองโครงการนี้ ร่วมมือกับ เค ดับบลิว กรุ๊ป ผู้มีประสบการณ์ด้านอุตสาหกรรมโรงแรมในจังหวัดภูเก็ตมาอย่างยาวนาน
 
“เรายังคงเดินตามแผนงานที่จะเพิ่มจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นโครงการหลักของเราเป็นจำนวนสองเท่าทั่วประเทศไทยภายใน 3-5 ปีข้างหน้า และการผนึกความแข็งแกร่งในการร่วมมือครั้งนี้ก็เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจว่าเราได้ทำตามคำมั่นสัญญาของแบรนด์และมอบประสบการณ์ที่มีค่าให้แก่แขกผู้เข้าพักเมื่อโรงแรมทั้งสองแห่งเปิดให้บริการในปี 2565”
 
โรงแรมในเครือฮอลิเดย์ อินน์ มุ่งมั่นที่จะมอบประสบกาณ์อันแสนอบอุ่นและเป็นมิตรให้แก่แขกทุกคนไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาทำงานหรือพักผ่อนก็ตาม ในขณะที่ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส เป็นตัวเลือกสำหรับนักเดินทางที่มองหาที่พักที่มีความเรียบง่าย มีเสน่ห์ สำหรับการพักผ่อนและชาร์จพลัง
 
“ด้วยประสบการณ์ด้านธุรกิจโรงแรมในภูเก็ตมากกว่าสามสิบปี เราเข้าใจถึงความต้องการของนักท่องเที่ยวและเราเชื่อว่า ฮอลิเดย์ อินน์ และ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส เป็นแบรนด์ที่เหมาะสำหรับโลเคชั่นและรสนิยมของแขกผู้เข้าพัก” คุณก้าน ประชุมพรรณ์ ประธานกรรมการบริหาร เค ดับบลิว กรุ๊ป กล่าวเสริม
 
“ด้วยความหลากหลายของนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศไทยและทั่วโลกที่เลือกภูเก็ตเป็นจุดหมายปลายทางในการพักผ่อนช่วงวันหยุด แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอย่าง IHG จะสามารถแบ่งปันประสบการณ์ในฐานะแบรนด์ระดับโลกในการตอบสนองความต้องการและรูปแบบการท่องเที่ยวอันหลากหลายของนักเดินทาง”

เดอะ บีช พลาซ่า ภูเก็ต โครงการมิกซ์ยูส ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของทั้งสองโรงแรม ถือเป็นโครงการตัวอย่างตามวิสัยทัศน์ใหม่ของรัฐบาลที่ได้แต่งตั้งภูเก็ตเป็นเมืองผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการพำนักแบบระยะยาวแห่งทวีปเอเชีย
 
ด้วยทิวทัศน์ที่งดงามและความเงียบสงบ ทำให้หาดกะตะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับครอบครัว คู่รักและนักท่องเที่ยวที่เดินทางลำพัง โดยเดินจากจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตเพียงหนึ่งชั่วโมง
 
โอบล้อมไปด้วยน้ำทะเลใสดุจคริสตัล พร้อมพื้นที่รองรับการทำกิจกรรมได้หลากหลาย แวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามของเกาะ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาทางน้ำไปจนถึงการเดินดูธรรมชาติรอบเกาะ ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาที ไปยังย่านป่าตองที่มีความครึกครื้นที่แวดล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวและความบันเทิง ร้านค้าและร้านอาหารให้เลือกมากมาย อีกทั้งยังตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เช่นเดียวกับ สวนสนุก พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและเขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์
 
IHG ยึดมั่นมาอย่างยาวนานต่อมาตรฐานด้านความสะอาดที่เข้มงวดในทุกโรงแรมทั่วโลกและเข้าใจเป็นอย่างดีว่าความสะอาด สุขภาพและความปลอดภัย คือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่แสนท้าทายนี้
 
ด้วยมาตรฐานด้านความสะอาดที่เรายึดมั่นนี้ IHG จึงได้ออกระเบียบและแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติมสำหรับสถานการณ์ COVID-19  โดยร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญชั้นนำไม่ว่าจะเป็น Cleveland Clinic, Ecolab และ Diversey และได้เปิดตัวโครงการ IHG Clean Promise เมื่อโรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ และ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ภูเก็ต กะตะ บีช เปิดให้บริการและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว IHG อย่างเป็นทางการ ก็จะดำเนินแนวทางภายใต้โครงการ IHG Way of Clean และมอบมาตรฐานด้านความสะอาดให้แก่แขกผู้เข้าพักภายใต้โครงการ IHG Clean Promise เช่นกัน
 
ปัจจุบัน IHG มีโรงแรม 19 แห่งที่ดำเนินงานภายใต้แบรนด์ ฮอลิเดย์ อินน์ และ ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ในประเทศไทย โดยมีอีก 16 โครงการที่จะเปิดตัวในอีก 3 – 5 ปี ข้างหน้า